Momentum Marketing เพราะการตลาดเเบบสร้างกระเเสเป็นสิ่งที่เเบรนด์ขาดไม่ได้

????สวัสดีค่ะทุกท่าน เจอกันอีกเช่นเคย วันนี้เราจะมาพูดคุยถึงการสร้างกระเเสให้กับเเบรนด์เพื่อที่จะได้ไม่ Out of Trend เเละเเปลกใหม่อยู่เสมอในสายตาผู้บริโภค +พีสเเควร์เลดี้+ ขออาสาพาทุกท่านไปทำความรู้จักกับ Momentum Marketing พร้อมเเล้วเราไปดูกันเลยค่ะ

ทุกวันนี้ในสังคมออนไลน์ ทุกคนต่างมีความกลัวหนึ่งที่เรียกว่า Fear of Missing out (FoMo) หรือโรคกลัวตกกระเเส โรคนี้เกิดจากการที่เรามีปฏิสัมพันธ์กับข้อมูลข่าวสารบนโลกออนไลน์ ทั้งการกดไลค์ กดเเชร์ หรือการมีReaction ต่างๆกับข่าวสารนั้นๆ เพราะเราอยู่ในโลกออนไลน์ที่มีความเชื่อร่วมกันว่า “เธอรู้ ฉันไม่รู้ไม่ได้” จึงเกิดการเเบ่งปันข่าวสารข้อมูลต่างๆไปในวงกว้าง ซึ่งสิ่งนี้เป็นพื้นฐานของการเกิดViral หรือการเเบ่งปันเนื้อหาให้สะพัดไปทั่วโลกออนไลน์ เเต่ก็เหมือนเป็นดาบสองคมให้กับเเบรนด์ เพราะเเบรนด์ไม่สามารถเข้าไปกำหนดทิศทางของสาร (Message) ที่เเบรนด์ต้องการจะสื่อสารไปยังผู้บริโภคได้ เพราะอิทธิพลของSocial Media ที่ได้เปลี่ยนบทบาทของผู้บริโภคไปอย่างสิ้นเชิง เราไม่ได้อยู่ในโลกที่เป็นการสื่อสารทางเดียวอีกต่อไป เเต่โลกออนไลน์คือการสื่อสารเเบบสองทาง (Two-Way Communication) ที่ทั้งผู้บริโภคเเละเเบรนด์ต่างมีปฏิสัมพันธ์ต่อกัน ทำให้อำนาจในการบงการทิศทางของสารจากเเบรนด์ได้ถูกลดลง เเต่วันนี้เราจะมาโฟกัสกันที่การสร้างเเรงกระเพื่อม (Momentum) ให้กับเเบรนด์ ผ่าน Momentum Marketing

ก่อนที่เราจะไปทำความรู้จักกับการตลาดเเบบสร้างกระเเส เราควรมารู้จักกับ Difusion of Innovation Model หรือ ทฤษฎีการเปิดรับนวัตกรรมใหม่ เพื่อที่เราจะได้ทำความรู้จักกับพฤติกรรมผู้บริโภคได้ดียิ่งขึ้น เพื่อนำมาประยุกต์ใช้กับการสร้างกระเเสบนโลกออนไลน์ โดยทฤษฎีการเปิดรับนวัตกรรม เเบ่งคนออกเป็น 4 กลุ่ม ดังนี้
1. Innovative = กลุ่มคนมีความรู้ ชอบทดลองสิ่งของเเละไอเดียใหม่ๆ
2. Early Adopters = ผู้นำทางความคิด ที่กล้าทดลองสิ่งใหม่
3. Early Majority = ตัดสินใจอย่างรอบคอบไม่รีบร้อน
4. Late Majority = ยอมรับสินค้าก็ต่อเมื่อคนส่วนใหญ่ให้การยอมรับเเล้ว
5. Laggards = ตัดสินใจเมื่อมีข้อพิสูจน์ว่าสิ่งนั้นดีจริง ไม่ตามกระเเส

เมื่อเรารู้จักกับทฤษฎีการเปิดรับนวัตกรรมใหม่เเล้ว สิ่งที่เเบรนด์ต้องทำคือเข้าหากลุ่มคนที่เป็น Early Adopter หรือ กลุ่มคนที่ “มีก่อน ใช้ก่อน” บนโลกออนไลน์ ที่สามารถเป็น Influencer ในการสร้างความเชื่อถือเเละความมั่นใจในสินค้าใหม่ของเเบรนด์ได้ เช่น การทำรีวิว การทำBlog การกดไลค์กดเเชร์พร้อมเเคปชั่นต่างๆ เพื่อที่คนกลุ่มนี้จะสามารถสร้างความมั่นใจเเละเปิดใจผู้บริโภคกลุ่มอื่นๆได้ ซึ่งถือเป็นตัวช่วยสำคัญที่มีส่วนกระตุ้นยอดขาย ขยายการยอมรับ เเละสร้างความตระหนักรู้ในตัวสินค้า ทั้งนี้สิ่งที่เเบรนด์ควรให้ความสำคัญในการทำ Momentum Marketing คือ Brand Fit! ทุกสิ่งที่เเบรนด์ทำต้องมีความสอดคล้องกับภาพลักษณ์เเละอัตลักษณ์ของเเบรนด์ จึงจะทำให้การสื่อสารทางการตลาดมีประสิทธิภาพเเละอยู่ในความทรงจำของผู้บริโภค

กลุ่ม Early Adopter มีการเปิดรับสื่อและโซเชียลมีเดียสูงเป็นอันดับหนึ่ง ผ่าน Facebook, Line, Instagram และ Twitter รองลงมาคือ โทรทัศน์ และเว็บไซต์ ดังนั้น เพื่อที่จะเข้าไปสื่อสารกับคนกลุ่มนี้เเบรนด์จำเป็นต้องมีการเคลื่อนไหวอยู่เสมอ, มีผู้นำทางความคิดที่สนับสนุนสินค้า, สินค้าต้องมีคุณภาพเเละมีการพัฒนาเพื่อจูงใจให้เกิดการเเบ่งปันข้อมูลบนโลกออนไลน์, สร้างความผูกพันธ์กับผู้บริโภคผ่านการมีปฏิสัมพันธ์กัน, สินค้าต้องเติมเต็มความต้องการเเละสามารถบรรเทา Pain Points ของผู้บริโภค,นำเทรนด์เเละโดเด่น,ใช้ข้อจำกัดทางด้านเวลา (Limited) หรือราคา (Promotion) ในการกระตุ้นความต้องการของผู้บริโภค และสุดท้ายคือ ต้องติดตาม Feed Back จากผู้บริโภคอย่างใกล้ชิด

Leave a Reply